คำอธิบาย
ว่านชักมดลูก เป็นสมุนไพรในตระกูลเดียวกับขมิ้น มีสรรพคุณตามตำรายาไทยคือใช้รักษากลุ่มอาการของสตรีที่โบราณใช้กันมาอย่างยาวนาน นอกจากนี้ว่านชักมดลูกยังเป็นส่วนประกอบหลักในการทับหม้อเกลือที่ใช้ดูแลหญิงหลังคลอดบุตรอีกด้วย
ว่านชักมดลูก จัดอยู่ในวงศ์ขิง (ZINGIBERACEAE) เป็นพืชที่มีลำต้นเป็นหัวอยู่ใต้ดินและมีหลากหลายสายพันธุ์ แต่สำหรับในประเทศไทย ว่านชักมดลูกที่พบได้ตามท้องตลาดจะมีอยู่ด้วยกัน 2 สายพันธุ์ ได้แก่ ว่านชักมดลูกตัวเมีย (Curcuma comosa Roxb.) ซึ่งจะมีลักษณะของหัวกลมรีตามแนวตั้ง มีแขนงสั้น (ตามภาพแรก) และว่านชักมดลูกตัวผู้ (Curcuma latifolia Roscoe) จะมีลักษณะต่างจากตัวเมียตรงที่ หัวใต้ดินจะกลมแป้นมากกว่า และแขนงจะยาวมากกว่า (ตามภาพที่สอง) ทำให้การซื้อมาใช้บางครั้งอาจจะจำแนกลำบาก เพราะบางครั้งเมื่อนำมาเทียบกันทั้งตัวเมียและตัวผู้จะคล้ายกันมาก
ทั้งนี้ยังได้พบว่ามีพืชอีกชนิดหนึ่งที่มีต้นกำเนิดในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับว่านชักมดลูกของไทยมาก และมีสรรพคุณทางยาที่คล้ายคลึงกัน โดยเป็นว่านชัดมดลูกที่มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Curcuma zanthorrhiza Roxb. (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Curcuma xanthorrhiza Roxb.)
สมุนไพรว่านชักมดลูก ตามสรรพคุณตำรายาไทยนั้น จะใช้ว่านชักมดลูกตัวเมียเป็นหลัก เพราะมีสรรพคุณรักษาอาการต่าง ๆ ของสตรี ไม่ว่าจะเป็นอาการประจำเดือนมาไม่เป็นปกติ ปวดท้องประจำเดือน ตกขาว เป็นต้น จากสรรพคุณดังกล่าวนักวิจัยก็ได้ตีความว่า ว่านชักมดลูกน่าจะมีฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเพศหญิงหรือเอสโตรเจน ซึ่งมีงานวิจัยพบว่าว่านชักมดลูกตัวเมียจะออกฤทธิ์ได้เป็นอย่างดีเพราะมีสารออกฤทธิ์ในกลุ่มไดแอริลเฮปตานอยด์ แม้จะมีโครงสร้างไม่เหมือนกับฮอร์โมนเอสโตรเจนก็ตาม และเรียกสารชนิดนี้ว่า ไฟโตเอสโตรเจน ซึ่งมีฤทธิ์คล้ายกับฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งวงการแพทย์ต่างก็ยอมรับว่าสารกลุ่มไฟโตเอสโตรเจนมีประสิทธิภาพในการรักษาสุขภาพต่าง ๆ ของสตรีวัยทองได้เป็นอย่างดี
ดังนั้นการเลือกว่านชักมดลูกมาเป็นวัตถุดิบให้ถูกต้องเพื่อใช้ทำยาสมุนไพรจึงมีความสำคัญอย่างมากต่อสรรพคุณที่ต้องการ
สรรพคุณและประโยชน์ ของ ว่านชักมดลูก
- แก้ประจำเดือนผิดปกติ ทำให้ประจำเดือนมาตรงกำหนดขึ้น
- ช่วยรักษาอาการปวดท้องระหว่างมีประจำเดือน และบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือนอย่างรุนแรงให้ดีขึ้น
- รักษามดลูกอักเสบ รักษาอาการหน่วงเสียวมดลูก หรือเจ็บท้องน้อยเป็นประจำได้ดี
- แก้เจ็บปวดมดลูก ช่วยให้มดลูกเข้าอู่เร็วในหญิงหลังคลอด โดยกินหัวว่านกับเหล้าหรือน้ำปูนใส หรือ นำว่านชักมดลูกมาฝานแล้วต้มน้ำดื่มวันละ 3 ครั้ง ควรดื่มเฉพาะเวลาปวด
- รักษาอาการตกขาว นำกิ่งและใบของกระบือเจ็ดตัว 1 – 2 กำมือ และว่านชักมดลูก 5 – 7 แว่น ต้มจนเดือด ดื่มวันละ 3 เวลา ก่อนอาหาร
- ช่วยให้คลอดลูกง่าย นำว่านชักมดลูกฝานเป็นแว่น 4 – 5 แว่น แช่น้ำอาบ จะทำให้คลอดลูกง่ายขึ้น
- ว่านชักมดลูก ช่วยรักษาอาการมดลูกทรุดตัว หรือมดลูกต่ำไม่เข้าที่
- มีฤทธิ์เหมือนฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่สำคัญของผู้หญิง เพราะมีหน้าที่ควบคุมการเจริญเติบโตและการเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ของเพศหญิง เช่น การมีประจำเดือน สะโพกผาย เต้านมขยาย
- ช่วยกระชับช่องคลอดภายในสตรี
- ช่วยลดอาการร้อนวูบวาบในสตรีวัยทอง
- ลดกลิ่นภายในช่องคลอดของสตรีให้หายไป และช่วยขับน้ำคาวปลา
- ลดไขมันในเลือด มีฤทธิ์ลดปริมาณอินซูลิน น้ำตาล ไขมันอิสระ และไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือด รวมถึงลดไขมันที่สะสมในตับด้วย
- มีฤทธิ์ต้านทานการอักเสบต่างๆ เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระที่จะเข้าไปในร่างกายทำให้เซลล์ภายในเสื่อม และมีฤทธิ์ช่วยต้านการอักเสบต่างๆ
- ป้องกันจอประสาทตาเสื่อม ซึ่งเป็นโรคของคนวัยทองพบในผู้สูงอายุ 50 ขึ้นไป สารต้านอนุมูลอิสระจะป้องกันเซลล์เรตินาของตาจากการถูกทำลายโดยสภาพเครียดจากอนุมูลอิสระ
- ดับกลิ่นปาก กลิ่นตัว กลิ่นภายในช่องคลอดให้ลดลงหรือหายไป
- ปกป้องตับ ไต และกระเพาะอาหาร เพราะมีสารที่สามารถป้องกันเยื่อบุกระเพาะอาหารได้ดีและลดขนาดของแผลที่เกิดจากการทำให้กระเพาะอาหารเป็นแผลด้วยแอลกอฮอล์
- ว่านชักมดลูกมีสรรพคุณทางยาที่ใช้แก้พิษเพราะอาหารไม่ย่อย
- ช่วยรักษาระบบหลอดเลือดและหัวใจ ทำให้หลอดเลือดแข็งตัวมากขึ้น และยังช่วยป้องกันอาการเยื่อบุผนังหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจขาดความยืดหยุ่น
- รักษาโรคกระดูกพรุน ลดการสูญเสียแคลเซียม ช่วยรักษาความหนาแน่นของมวลกระดูกไม่ให้ลดลง จึงช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนได้
- ลดอาการอารมณ์แปรปรวน ช่วยให้ผู้หญิงที่มีอารมณ์ฉุนเฉียว จิตใจห่อเหี่ยว อ่อนไหวง่าย โกรธง่าย ให้กลับมาอารมณ์เป็นปกติ
- ฤทธิ์ต้านเซลลม์ะเร็ง พบว่าสารมีฤทธิ์ทำให้เซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาวเกิดการตายไป และยังมีผลยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งลำไส้ใหญ่ และป้องกันการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูก
- มีฤทธิ์ปกป้องตับจากสารพิษ โดยไปช่วยกระตุ้นกลไกการล้างพิษและลดการสร้างสารเคมีที่เป็นพิษต่อร่างกาย
- ช่วยบำรุงผิวพรรณ ทำให้ผิวเปล่งปลั่ง ดูมีน้ำมีนวล เพราะมีฤทธิ์ยับยั้งการสร้างเมลานิน หากมีเมลานินมากเกินไปจะทำให้ผิวคล้ำ
- บรรเทาทวารหนักอักเสบ แก้ริดสีดวงทวาร แก้โรคลำไส้ โดยนำว่านไปตากให้แห้งแล้วบดเป็นผง ชงกับน้ำร้อน
- รักษาไส้เลื่อนในผู้ชาย โดย นำหัวสดมาเผาแล้วโขลกใส่เหล้าขาว กรองด้วยผ้าขาวบางแล้วดื่มเช้าและเย็น
รีวิว
ยังไม่มีบทวิจารณ์