โกสน

“โกสน” มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ อินเดียตอนใต้ ศรีลังกา สมัยรัชกาลที่5 ทรงนำเข้ามาปลูกไว้ในพระราชวัง บ้านขุนนาง และวัดหลวง
“โกสน” เป็นพรรณไม้ยืนต้นประเภทไม้พุ่มขนาดย่อมลำต้นมีความสูงประมาณ 3-5 เมตร ผิวลำต้นเรียบสีน้ำตาลปนเทา ลำต้นตรง แตกกิ่งก้านเป็นพุ่มทรงกลม ใบแตกออกจากต้นและปลายกิ่ง ลักษณะใบมีรูปร่าง สีสันขนาด แตกต่างกันออกไปแล้วแต่ชนิดพันธุ์ ดอกออกเป็นพวงห้อยลงมาด้านล่างซึ่งออกมาจากปลายกิ่งพวงหนึ่งยาวประมาณ10-15เซนติเมตรดอกมีสีขาวดอกเล็กมากมีกลีบดอก 5 กลีบ ดอกบานเต็มที่จะเห็นเกสรตัวผู้เป็นเส้นฝอย การบานของดอกเป็นรูปทรงกลม

คนไทยโบราณเชื่อว่า บ้านใดปลูกต้นโกสนไว้ประจำบ้าน จะทำให้มีบุญบารมี เพราะโกสนคนโบราณกล่าวถึง กุศล คือ การสร้างบุญ คุณงามความดีนอกจากนี้ยังมีความเชื่ออีกว่าสามารถช่วยคุ้มครองให้มีความอยู่เย็นเป็นสุข

การนำโกสนมาปรุงอาหาร ส่วนของยอดอ่อนใบโกสน สามารถนำมารับประทานได้ จะมีรสหวาน จะนิยมนำไปประกอบอาหาร เช่น คั่วแฮ่ม แกงโฮะ ผัดกะเพรา ชุบแป้งทอด หรืออาจจะนำมาลวกจิ้มกับน้ำพริก

สรรพคุณทางยาของโกสน ใบแก่โกสนจะมีรสเฝื่อน โขลกพอกท้องเด็ก แก้โรคระบบทางเดินปัสสาวะผิดปกติ โดยใช้ใบสด 10-15 ใบ นำมาโขลกให้ละเอียด แล้วใช้พอกและทาบริเวณท้องเด็ก นอกจากนี้ยอดอ่อนยังมีสรรพคุณแก้ร้อนในด้วย ปัจจุบันพบว่า “โกสน” เป็นพืชอีกชนิดหนึ่งที่มีความสามารถอยู่บ้างในการดูดมลพิษในอากาศ ถึงแม้จะไม่มากเท่ากับไม้ประดับชนิดอื่น ๆ แต่มีข้อได้เปรียบที่สีสันสวยงามของโกสน ทำให้ได้รับเลือกเป็นไม้ประดับยอดนิยมชนิดหนึ่ง

โกสนมีอยู่มากมายหลายพันธุ์ตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ ความโดดเด่นอยู่ที่ลักษณะของใบที่มีหลากหลายทั้งรูปแบบและสีสันที่สดใสงดงาม จึงนิยมนำมาปลูกเป็นไม้ประดับทั้งภายในและภายนอกอาคาร โกสนเป็นไม้กลางแจ้งที่ชอบแดด สีสันของโกสนจะสวยงามได้ขึ้นอยู่กับการที่ได้รับแสงแดดที่พอเพียง ดังนั้นเมื่อนำโกสนมาปลูกเป็นไม้ประดับภายในอาคาร จึงควรตั้งไว้ในที่ที่ได้รับแสงอย่างพอเพียง หรือมีแสงแดดส่องถึง มิฉะนั้นสีของใบโกสนจะซีดลง