คำอธิบาย
ลิ้นมังกร จัดเป็นไม้ใบประดับ และไม้มงคล ที่นิยมเพื่อการประดับใบ เนื่องจาก ใบมีลักษณะเรียวยาวคล้ายหอก มีทั้งใบสั้น และใบยาว ใบมีจุดด่างของหลายสีอาทิ สีเขียวเข้ม สีเขียวอ่อน สีเขียวอมเทา และสีเหลือง ทำให้แลดูสวยงาม และเป็นที่แปลกตาเมื่อพบเห็น
ต้นลิ้นมังกร เป็นชื่อเรียกของพืชใบเลี้ยงเดี่ยวในกลุ่มของลิ้นมังกรซึ่งมีหลายชนิด แต่จะมีลักษณะเด่นที่ใบเรียวยาวคล้ายหอก ทั้งชนิดเรียวยาวมาก ยาวปานกลาง และสั้น ส่วนปลายใบมีทั้งชนิดที่ปลายใบแหลม และมีหนาม ปลายใบแหลมแต่ไม่มีหนาม และปลายใบมน นอกจากนั้น ลิ้นมังกรยังถูกนำไปเรียกพืชที่มีลักษณะใบคล้ายกัน แต่จัดอยู่ในกลุ่มของกล้วยไม้ เช่น ลิ้นมังกรใบจุด เป็นต้น รวมถึงใช้เรียกพืชบางชนิดที่จัดอยู่ในกลุ่มของกระบองเพชร
ในทีนี้จะขอกล่าวถึงต้นลิ้นมังกร หรือบางชนิดเรียก ว่านลิ้นมังกร ที่พบเห็นปลูกกันมาก ซึ่งมีหลายชนิดที่มีรูปทรง และลักษณะของใบแตกต่างกัน ทั้งมีเป็นชนิดพื้นเมืองของไทย และชนิดที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ
ลิ้นมังกรเป็นพืชที่มีลักษณะโดดเด่นที่ใบสวยงามแปลกตา ปลูกได้ทั้งภายนอกอาคาร และปลูกลงในกระถางเพื่อประดับภายในอาคารและบ้านเรือน ถึงแม้จะเป็นพืชที่โตช้าแต่ก็ปลูกง่ายและทนทาน
ลิ้นมังกรนั้นมีหลายชนิด เช่น ลิ้นมังกรสั้น ลิ้นมังกรยาว ลิ้นมังกรลาย หรือเรียกว่าหอกพระอินทร์ ลิ้นมังกรมีลำต้นเป็นหัวหรือเหง้าอยู่ใต้ดิน ใบโผล่พ้นดินเป็นใบยาวแหลมคล้ายหอกแข็งตั้งตรงสูงประมาณ 1 เมตร ใบสีเขียว มีลายตามแนวขวาง ลิ้นมังกรยาวจะมีสีเหลืองบริเวณขอบใบเป็นแนวยาว ดอกมีสีขาวอมเขียว
ถึงแม้คุณสมบัติในการดูดสารพิษของลิ้นมังกรจะไม่มากนัก แต่คุณสมบัติเด่นของลิ้นมังกรอยู่ที่เป็นพืชที่คายออกซิเจนออกมาตอนกลางคืนและดูดคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไป จึงเหมาะที่จะปลูกไว้ในห้องนอน
ลิ้นมังกรเป็นไม้ฟอกอากาศ 1 ใน 50 ตัว ที่อาจารย์ Wolverton ได้ทำงานในโครงการไม้ฟอกอากาศของ NASA และสามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ตอนกลางคืน (เป็นกลุ่ม CAM Plant ปากใบจะเปิดตอนกลางคืน) จึงเป็นไม้น่าสนใจตัวนึงสำหรับเลี้ยงไว้ในบ้าน
ชื่อวิทยาศาสตร์ Sansevieria
วงศ์ AGAVACEAE
ลักษณะทั่วไป ลักษณะทั่วไป ลิ้นมังกรเป็นพรรณไม้ ที่มีลำต้นเป็นหัว หรือเหง้าอยู่ในดิน ลักษณะลำต้นเป็นข้อ ๆ ใบเกิดจากหัวที่โผล่ออมาพ้นดินเป็นกอ ลักษณะใบยาวปลายแหลม แข็งเป็นมัน ขอบใบเรียบ โค้งงอเล็กน้อย ขอบใบมีสีเหลืองกลางใบสีเขียวอ่อน ประด้วยเส้นสีเขียวเข้ม ขนาดของใบกว้างปรมาณ 4-7 เซนติเมตร ยาวประมาณ 30-50 เซนติเมตร ก้านดอกประกอบด้วยกลุ่มดอกป็นชั้น ๆ ลักษณะดอกมีขนาดเล็ก ออเรียงกันเป็นแนวตามชั้นของก้านดอกดอกมีสีขาวมีกลีบประมาณ 5 กลีบ นาดดอกบานเต็มที่ 2 เซนติเมตร ลักษณะขนาดใบ และสีสรร จะแตกต่างกันไปตามชนิดพันธุ์
การเป็นมงคล คนไทยโบราณเชื่อว่า บ้านใดปลูกต้นลิ้นมังกรไว้ประจำบ้าน จะช่วยป้องกันอันตรายจากภายนอกได้ เพราะลิ้นมังกร บางคนเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าหอกพระอินทร์ ซึ่งเป็นอาวุธชนิดหนึ่งของพระอินทร์ ที่ใช้ในการต่อสู้และปกป้องศัตรูจากภายนอก ดังนั้นลิ้นมังกรจึงเป็นไม้ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ เพราะเป็นไม้ที่มีความสำคัญของพระอินทร์ในสมัยพุทธกาล ตำแหน่งที่ปลูกและผู้ปลูก เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อาศัย ควรปลูกต้นลิ้นมังกรไว้ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ผู้ปลูกควรปลูกในวันอังคาร เพราะโบราณเชื่อว่าการปลูกไม้เอาประโยชน์ทั่วไปทางใบให้ปลูกในวันอังคาร
การปลูก มี 2 วิธี
1.การปลูกในแปลงปลูกเพื่อประดับบริเวณบ้านและสวนนิยมปลูกในแปลงปลูกเพื่อประดับบริเวณบ้านและสวนแต่คนโบราณนิยมปลูกเป็นแนวรั้วบ้าน ขนาดหลุมปลูก 30 x 30 x 30 เซนติเมตร ใช้ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก : ดินร่วน : อัตรา 1 : 1 ผสมดินปลูก
2 การปลูกในกระถางเพื่อประดับภายในและภายนอกอาคาร ควรใช้กระถางทรงสูง ขนาด 10-15 นิ้ว ใช้ปุ๋ยคอก หรือ ปุ๋ยหมัก : ดินร่วน อัตรา : 1 : 1 ผสมดินปลูก และควรเปลี่ยนกระถางทุก 1-2 ปี เพราะเนื่องจากการขยายตัวของรากและหน่อแน่นเกินไป และเพื่อเปลี่ยนดินปลูกใหม่แทนดินปลูกเดิมที่เสื่อมสภาพไป
ถิ่นกำเนิด อาฟริกันและอินเดีย
แสงแดด กึ่งแดด
อุณหภูมิ 18-27 องศาเซลเซียส
ความชื้น ต้องการความชื้นปานกลาง
น้ำ ต้องการน้ำปานกลาง
การดูแล ต้องการแสงพอสมควร ต้องการน้ำและความชื้นปานกลาง เป็นพืชที่ปลูกง่าย ทนทาน แม้มีแสงน้อย และขาดน้ำเป็นเวลาหลายวัน ไม่ค่อยพบโรคและแมลงรบกวน ใช้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกละลายน้ำรดเดือนละครั้ง เปลี่ยนกระถางปีละครั้ง
การขยายพันธุ์ โดยการตอนกิ่งหรือปักชำ
อัตราการคายความชื้น น้อย
อัตราการดูดสารพิษ น้อย
รีวิว
ยังไม่มีบทวิจารณ์