คำอธิบาย
ชื่อวิทยาศาสตร์: Centella asiatica Urban
บัวบก ชื่อสามัญ : Gotu kola
วงศ์ : Umbelliferae
ชื่ออื่น : สมุนไพรบัวบก มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า ผักหนอก (ภาคเหนือ), ผักแว่น (ภาคใต้), กะโต่ เป็นต้น จัดเป็นพืชสมุนไพรที่มีต้นกำเนิดในแถบเอเชีย เป็นพืชล้มลุกขนาดเล็ก มีกลิ่นฉุน มีรสขมหวาน
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้ล้มลุกอายุหลายปี เลื้อยแผ่ไปตามพื้นดิน ชอบที่ชื้นแฉะแตกรากฝอยตามข้อ ไหลที่แผ่ไปจะงอกใบจากข้อชูขึ้น 3-5 ใบ ใบ เดี่ยว เรียงสลับ รูปไตเส้นผ่าศูนย์กลาง 2-5 ซม. ขอบใบหยัก ก้านใบยาว ดอก ช่อ ออกที่ซอกใบ ขนาดเล็ก 2-3 ดอก กลีบดอกสีม่วง ผล เป็นผลแห้ง แตกได้
ส่วนที่ใช้ : ใบ ทั้งต้นสด เมล็ด
เมื่อพูดถึงบัวบก สมุนไพรชนิดนี้ขึ้นมาทีไร หลาย ๆ คนคงนึกไปว่ามันแค่ช่วยแก้อาการช้ำในเฉย ๆ (ส่วนอาการอกหักนี้ไม่เกี่ยวกันนะ) แต่ในความเป็นจริงแล้ว บัวบกหรือใบบัวบกนั้นมีสรรพคุณมากมาย เพราะได้รับการกล่าวขานเกี่ยวการรักษาโรคได้หลายชนิด อย่างโรคลมชัก โรคผิวหนัง ท้องเสีย ท้องอืด แผลในกระเพาะอาหาร มีฤทธิ์กล่อมประสาท ช่วยบำรุงสมอง เพิ่มความจำ ช่วยลดความอ่อนล้าของสมอง
ใบบัวบก มีสารประกอบสำคัญหลายชนิด อย่างเช่น บราโมซัยด์ บรามิโนซัยด์ ไตรเตอพีนอยด์ มาดิแคสโซซัยด์ ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยต้านการอักเสบ และยังมีกรดมาดิแคสซิค วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 6 วิตามินเอ วิตามินเค ธาตุแคลเซียม ธาตุแมกนีเซียม ธาตุโซเดียม และกรดอะมิโน อย่างเช่น แอสพาเรต กรดกลูตามิก เซรีน ทรีโอนีน อะลานีน ไลซีน ฮีสทีดิน เป็นต้น
ใบบัวบกเหมาะสำหรับคนที่ขี้ร้อน มีภาวะแกร่ง หรือมีความร้อนชื้น เพราะเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์เป็นยาเย็น
วิธีการปลูกใบบัวบก
การปลูกใบบัวบกสามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่นำไหลมาตัดแต่งรากแล้วนำไปปักชำในที่ร่ม ให้รดน้ำประมาณ 3-4 วัน แล้วค่อยย้ายลงพื้นที่ปลูก โดยลักษณะดินที่เหมาะสมคือดินร่วนปนทรายถึงแม้จะเป็นพืชที่ชอบพื้นที่แฉะแต่ก็ควรให้น้ำ และอยู่ในพื้นที่ที่ได้รับแสงแดดอย่างเพียงพอเพื่อช่วยในการเจริญเติบโต รวมถึงการใส่ปุ๋ยเพื่อให้ได้ลำต้นอวบน้ำที่ดูน่ารับประทาน และสามารถนำไปจำหน่ายในท้องตลาดได้อีกด้วย
ประโยชน์ของใบบัวบก
ใบบัวบกถือเป็นพืชสมุนไพรที่มีส่วนประกอบที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นวิตามิน แร่ธาตุ และกรดต่าง ๆ ที่มีส่วนช่วยส่งเสริม และเกิดผลดีต่อร่างกายอยากมากมาย โดยใบบัวบกมีสรรพคุณทางการรักษา ดังต่อไปนี้
- บัวบกเป็นพืชที่มีแคลเซียมในระดับปานกลางถึงสูง แต่มีระดับสารออกซาเลตที่เป็นอันตรายต่อร่างกายในปริมาณต่ำ
- ใบบัวบกช่วยคืนความอ่อนเยาว์ ย้อนอายุและวัย
- ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ
- ช่วยเสริมสร้างและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน
- มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต่อต้านการเสื่อมของเซลล์ต่าง ๆในร่างกาย
- ประโยชน์ของใบบัวบก ช่วยบำรุงและรักษาสายตา ฟื้นฟูรอบดวงตา เพราะบัวบกมีวิตามินเอสูง
- ช่วยรักษาอาการตาอักเสบบวมแดง ด้วยการใช้ใบบัวบกล้างน้ำสะอาด คั้นเอาแต่น้ำนำมาหยดที่ตา 3-4 ครั้งต่อวัน
- ช่วยบำรุงประสาทและสมองเหมือนใบแปะก๊วย
- ช่วยทำให้ความจำดีขึ้นและทำให้มีปฏิภาณไหวพริบเพิ่มมากขึ้น
- ช่วยเพิ่มความจำในผู้สูงอายุ
- เชื่อว่าใบบัวบกมีส่วนช่วยเพิ่มไอคิว ความฉลาด และความสามารถในการเรียนรู้
- ใบบัวบกมีสรรพคุณช่วยชะลออาการของโรคสมองเสื่อมในผู้สูงอายุ สตรีวัยทอง โรคอัลไซเมอร์หรืออาการหลงลืมระยะสั้นได้
- ช่วยเพิ่มสมาธิ แก้สมาธิสั้น
- ช่วยเพิ่มความสามารถในการตัดสินใจเฉพาะหน้า
- ช่วยแก้อาการปวดศีรษะ ปวดศีรษะข้างเดียว
- ช่วยแก้อาการวิงเวียนศีรษะ
- ช่วยผ่อนคลายความเครียด
- ช่วยเสริมการทำงานของกาบา (GABA) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ช่วยรักษาสมดุลของจิตใจ จึงช่วยผ่อนคลายและทำให้หลับง่ายขึ้น
- ช่วยทำให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น
- ช่วยกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่
- ใช้เป็นยาบำรุงกำลัง บำรุงร่างกาย
- ช่วยบำรุงโลหิตในร่างกาย
- ช่วยบำรุงหัวใจ
- ช่วยฟื้นฟูสุขภาพจากโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ
- ช่วยทำให้จิตใจสดชื่น อารมณ์แจ่มใส
- ช่วยทำให้หน้าตาสดใสเหมือนเป็นวัยรุ่น
- ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ
- ช่วยบำรุงเสียง
- ช่วยรักษาอาการเจ็บคอ ด้วยการใช้บัวบกสดประมาณ 1 กำมือ นำมาตำคั้นเอาน้ำแล้วเติมน้ำส้มสายชู 1-3 ช้อนแกง แล้วจิบกินบ่อย ๆ
- ช่วยแก้กระหายน้ำสรรพคุณใบบัวบก
- ใบบัวบกมีสรรพคุณช่วยแก้อาการร้อนใน ตัวร้อน
- ใบบัวบกมีสารยับยั้งหรือชะลอการขยายตัวของเซลล์มะเร็ง ช่วยต่อต้านโรคมะเร็ง
- ช่วยรักษาโรคเบาหวาน ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยโรคเบาหวานได้ดี
- ช่วยรักษาโรคดีซ่านจากภาวะร้อนชื้น ด้วยการใช้บัวบก 30 กรัม น้ำตาลทรายกรวด 30 กรัม ต้มน้ำดื่ม
- ช่วยรักษาโรคโลหิตจาง
- ช่วยรักษาอาหารหืด
- ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง ด้วยการใช้ต้นสด 1 กำมือต้มกับน้ำแล้วนำมาดื่ม หรือจะใช้บัวบกสด ๆ ทั้งต้นประมาณ 30 กรัมนำมาค้นเอาน้ำ เติมน้ำตาลเล็กน้อยแล้วดื่มกินประมาณ 5-7 วัน
- ช่วยรักษาโรคลมชัก
- ช่วยรักษาโรคหลอดลมอักเสบ
- ช่วยรักษาอาการเต้านมอักเสบเป็นหนองในระยะแรก ด้วยการใช้บัวบกและเปลือกของลูกหมาก 1 ผล นำมาต้มกับเหล้าดื่ม
- ช่วยแก้คนเป็นบ้า
- ช่วยรักษาโรคที่เกี่ยวกับเลือด
- ช่วยลดความดันเลือด เพิ่มความยืดหยุ่นให้หลอดเลือด และช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด
- ช่วยรักษาโรคที่มีสมุฏฐานจากเสมหะ
- ช่วยแก้อาการอ่อนเพลีย เมื่อยล้า
- ช่วยแก้ไข้
- ช่วยห้ามเลือดกำเดา เพราะทำให้เลือดเดิน แต่เลือดจะไม่ออกจากเส้นเลือดและยังทำให้เลือดเย็นอีกด้วย
- ช่วยแก้อาการช้ำใน บาดเจ็บจากการกระทบกระแทก
- เป็นพืชที่ย่อยได้ง่าย
- ช่วยทำให้เจริญอาหาร รับประทานอาหารได้มากขึ้น
- ช่วยแก้อาการท้องเสีย
- สารสกัดจากใบบัวบกมีฤทธิ์ป้องกันและยับยั้งการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้เป็นอย่างดี
- ช่วยแก้อาการเริ่มที่จะเป็นบิด
- ช่วยรักษาโรคบิดหรือมีมูกเลือดปนเมื่อขับถ่าย
- ช่วยรักษากระเพาะอาหารเป็นแผล
- ใช้เป็นยาระบาย ช่วยระบายท้อง แก้ลม
- ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ
- แก้อาการปัสสาวะติดขัด ด้วยการใช้ใบบัวบกประมาณ 50 กรัม นำมาตำแล้วพอกบริเวณสะดือ เมื่อถ่ายปัสสาวะคล่องดีแล้วค่อยเอาออก
- ช่วยขับความร้อนชื้นทางเดินปัสสาวะ ป้องกันการเกิดนิ่ว
- ช่วยรักษาโรคนิ่วทางเดินปัสสาวะด้วยการใช้บัวบก 50 กรัมต้มกับน้ำซาวข้าวครั้งที่ 2 แล้วนำมาดื่ม
- ช่วยรักษาอาการมีหนองออกจากปัสสาวะ
- ช่วยแก้อาการน้ำดีในร่างกายมากเกินไป
- ช่วยรักษาโรคม้ามโต
- ช่วยรักษาอาการติดเชื้อของไวรัสตับอักเสบ
- แก้อาการปวดข้อรูมาตอยด์
- ใช้เป็นยาห้ามเลือด ใส่แผลสด ด้วยการใช้ใบสดประมาณ 20 ใบนำมาล้างให้สะอาด ตำพอกแผลสด
- ช่วยรักษาแผลให้หายเร็วยิ่งขึ้น ช่วยเร่งการสร้างเนื้อเยื่อ
- ช่วยแก้อาการฟกช้ำ ด้วยการใช้ใบบัวบกมาทุบให้แหลกแล้วนำมาโปะบริเวณที่ฟกช้ำ หรือจะใช้ใบบัวบกประมาณ 40 กรัม ต้มกับเหล้าแดงประมาณ 250 cc. ประมาณ 1 ชั่วโมงแล้วนำมาดื่ม
- ใช้บัวบกตำนำมาพอกรักษาความร้อนบวมของโรคไฟลามทุ่ง หรือใช้รักษาอาการด้วยการใช้น้ำคั้นบัวบกนำมาผสมกับแป้งข้าวเหนียวทำเป็นแป้งเหลว พอกบริเวณที่เป็น
- ช่วยรักษาพิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย
- ช่วยรักษาโรคผิวหนังต่าง ๆ เช่น โรคเรื้อน โรคสะเก็ดเงิน หิด หัด เป็นต้น
- ช่วยระงับการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดหนอง
- ช่วยลดอาการอักเสบของแผลได้เป็นอย่างดีและใช้ทารักษาแผลอักเสบจากการผ่าตัดได้อีกด้วย
- ช่วยรักษาผิวหนังเป็นด่างขาว
- ใช้เป็นยาถอนพิษ ช่วยลดอาการปวดแสบปวดร้อนจากแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก ด้วยการใช้ทั้งต้นสดของบัวบกประมาณ 3 ต้นนำมาล้างน้ำให้สะอาด ตำให้แหลกแล้วนำมาพอกแผลไฟไหม้
- บัวบกมีการนำมาผลิตเป็นแคปซูลวางจำหน่าย มีสรรพคุณในการช่วยบำรุงสมองเป็นหลัก (Brain tonic)
- ปัจจุบันมีการนำไปทำเป็นยาเป็นแผนปัจจุบันในรูปแบบผงใช้โรยแผล และในรูปแบบเม็ดรับประทานเพื่อรักษาแผลผ่าตัด แผลสด ไฟไหม้ น้ำร้อนลวก หรือฝีหนองได้ และยังช่วยป้องกันการเกิดแผลเป็นอีกด้วย
- ช่วยแก้อาการก้างปลาติดคอ ด้วยการนำบัวบกไปต้มน้ำ แล้วค่อย ๆ กลืนน้ำลงคอ
- ใบและเถาบัวบกใช้รับประทานเป็นผักสดกับน้ำพริกกะปิคั่ว หมี่กรอบ ก๋วยเตี๋ยวผัดไทย ลาบ ก้อย แกงเผ็ด ยำใบบัวบก ซุปหน่อไม้ เป็นต้น
- น้ำคั้นจากใบบัวบกนำมาทำเป็นน้ำมันบัวบกใช้ชโลมศีรษะ มีสรรพคุณช่วยบำรุงหนังศีรษะและเส้นผม ช่วยทำให้เส้นผมดกดำ แก้ปัญหาผมร่วง ผมหงอกก่อนวัย
- น้ำใบบัวบกเป็นเครื่องดื่มที่เหมาะสำหรับหน้าร้อนเป็นอย่างมาก เพราะมีฤทธิ์เป็นยาเย็นดับร้อนในร่างกายได้สารพัด
- สารสกัดจากใบบัวบก มีคุณสมบัติช่วยลดการระคายเคืองผิวและปลอดภัยต่อร่างกาย
- สารสกัดจากใบบัวบกมีการนำมาใช้เพื่อเป็นส่วนผสมในการผลิตเครื่องสำอาง
- มีการนำสารสกัดจากใบบัวบกมาใช้ทำเป็นวัสดุปิดแผล
- ลบรอยตีนกาตื้น ๆ ด้วยน้ำใบบัวบก ด้วยการนำบัวบกมาล้างน้ำให้สะอาด นำไปปั่นจนละเอียด แล้วนำน้ำที่ได้มาใช้สำลีชุบน้ำทาทั่วบริเวณหางตาหรือทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีแล้วล้างออก โดยควรทาทุกวันก่อนนอน
- มีการนำสารสกัดจากใบบัวบกมาผลิตเป็นสบู่ใบบัวบก ซึ่งผู้ผลิตอ้างว่าช่วยรักษาสิว ทำให้ผิวหน้าขาวกระจ่างใส ผิวหน้าเต่งตึงได้
โทษของใบบัวบก และข้อควรระวัง
แม้จะมีข้อดีมากมายแต่ก็ยังมีข้อควรระวังต่าง ๆ ให้คุณได้ศึกษา และทำความเข้าใจก่อนนำไปรับประทานซึ่งได้แก่
- ต้องมีการตรวจสอบสุขภาพของตนเองเบื้องต้นว่ามีโรคประจำตัวที่อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการใช้ยาหรือไม่
- ผู้ป่วยโรคตับไม่ควรรับประทานเพราะมีการวิจัยถึงการส่งผลต่อตับทำให้เกิดอาการแย่ลงได้
- ไม่ควรรับประทานร่วมกับยาลดคอเรสเตอรอล เบาหวาน ยาขับปัสสาวะ ยาที่ส่งผลต่อตับ และยาระงับประสาท เนื่องจากการส่งผลทำให้เกิดปฏิกิริยาที่ผิดปกติตอบสนองต่อร่างกาย ดังนั้นหากต้องการจะรับประทานต้องได้รับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- สำหรับคนที่ต้องรับประทานยาแก้แพ้ หรือยากันชัก การรับประทานใบบัวบกจะยิ่งเพิ่มฤทธิ์ให้เกิดการง่วงซึมจึงไม่แนะนำให้รับประทาน
- ผู้ที่รับประทานใบบัวบกสด ไม่ควรรับประทานใบบัวบกเกิน 3 – 6 ใบต่อวัน ซึ่งหากเกิดอาการภายหลังรับประทาน เช่น มีอาการอ่อนเพลีย ใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว แนะนำให้หยุดยา และควรไปพบแพทย์โดยทันที
- ไม่ควรรับประทานใบบัวบกติดต่อกันเป็นประจำทุกวัน หรือมากกว่า 1 อาทิตย์เพราะอาจส่งผลข้างเคียง เช่น ความรู้สึกเย็น และอาการหนาวสั่นตลอดเวลา
ทั้งหมดนี้เป็นข้อควรระวังในการรับประทานใบบัวบกซึ่งควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญเพราะหากได้รับในปริมาณมากเกินไป หรือใช้ร่วมกับยาอื่น ๆ ที่อาจส่งผลข้างเคียงเป็นอันตรายต่อชีวิตได้
ซึ่งจบกันไปแล้วสำหรับเรื่องน่ารู้ของใบบัวบัก ที่เราได้ให้ข้อมูลตั้งแต่ลักษณะ ใบบัวบกมีกี่ชนิด ใบบัวบก สรรพคุณที่หลายคนไม่รู้ การนำไปรับประทาน และโทษของใบบัวบก รวมถึงให้คุณได้นำไปปฏิบัติใช้ได้อย่างถูกต้อง และถูกวิธีเพื่อให้เกิดสุขภาพร่างกายที่ดีโดยไม่มีผลข้างเคียง
รีวิว
ยังไม่มีบทวิจารณ์